ถ้า อ ย า ก ให้ลูก เ ก่ ง แม่ต้องขี้เกียจ

พ่อแม่หลายคนชอบช่วยเหลือลูกอยู่ตลอดเพราะเกรงว่าลูกจะทำอะไรได้ไม่ดีพอ แต่รู้ไหมการทำ อ ย่ า ง นี้จะเป็นการทำให้ลูกของคุณกลายเป็นคนอ่อนแอที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้

วันนี้จึงอยากมาแชร์เรื่องราวสอนลูก อ ย่ า ง ไรให้ได้ดี ซึ่งคุณแม่นั้นอาจต้องทำตัวขี้เกียจเพื่อให้ลูกได้เติบโต

1. แม่ต้องขี้เ กี ย จ ขยับมือ สอนให้ลูกเรียนรู้จักพึ่งพาตัวเอง

คุณแม่เจียเจียได้เล่าประสบการณ์ว่า เธอจะไม่เข้าไปช่วยลูกในสิ่งที่พวกเขาทำได้เอง เช่นเมื่อห้องนอนของเจียเจียไม่เป็นระเบียบ แม่จะเตื อ น เจียเจียว่าควรจัดห้องยังไง เพื่อให้เป็นระเบียบ และจะให้ลูกทำเองในช่วงเปิดภาคเรียน

ประสบการณ์สอนว่า : “แม่ ขี้ เ กี ย จ” ไม่เคยขยัน ห มั่ น เพี ย ร ในการช่วยลูก ในการทำสิ่งต่าง ๆแต่ให้ลูกได้พึ่งพาอาศัยตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่เฉยเมยต่อการฝึกฝน คือการสร้างความรับผิดชอบให้กับลูกได้เป็น อ ย่ า ง ดี

2. แม่ต้อง ขี้ เ กี ย จ บ่นหรือพูดมาก ให้ลูกเรียนรู้ที่จะเติบโตด้วย ตั ว เ อ ง

พ่อแม่หลายคนชอบสร้างความคาดหวังในตัวลูกมากไป อ ย า ก ให้ลูกทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี แต่การทำเช่นนี้จะทำให้ลูกรู้สึกอึดอัด และกลายเป็นไม่ อ ย า ก ฟังและทำเป็นหูทวนลม ไม่ใส่ใจกับสิ่งที่พ่อแม่พูดเลย

มีแม่ลูกคู่หนึ่ง ที่ลูกบอกแม่ว่าจะเล่นเกมส์ เพียง 10 นาที แต่เลย 10 นาที แล้วยังไม่หยุดเล่น และยังไม่ยอมทำการบ้าน แม่จึงโมโหมาก แต่ก็ต้องสงบสติอารมณ์ และพูด อ ย่ า ง ใจเย็นว่า “ปกติลูกเป็นคน รั ก ษ า คำพูดไม่ใช่เหรอ”

ในตอนนั้นลูกก็เริ่มรู้สึก ผิ ด จากนั้นก็เดินไปปิดสวิทช์และรีบไปทำการบ้าน นั่นเพราะแม่จะชอบหา นิ ท า น ที่เป็นช่วยสอนลูกเกี่ยวกับการรักษาคำพูดให้ลูกอ่าน จนลูกนำมาปฏิบัติเป็นนิสัย

ประสบการณ์สอนว่า : “แม่ ขี้ เ กี ย จ” ไม่ขยันที่จะบ่นทั้งวัน แต่ใช้เหตุผลในการพูดคุย เพราะเธอรู้ดีว่าลูกไม่ช อ บ การบ่น แต่เธอขยันในการหาวิธีในการรับมือเพื่อปลูกฝั ง สิ่งที่ดีให้กับลูก

3. แม่ต้อง ขี้ เ กี ย จ ไม่เข้าไปช่วยลูกทำการบ้าน

มีคุณแม่ท่านหนึ่งเล่าประสบการณ์ว่า ตนเองไม่เคยไปสอนการบ้านให้ลูกชาย แม่จะเตื อ น ลูกมากกว่าว่าเวลาไหนควรไปทำการบ้าน เมื่อทำเสร็จแล้วก็บอกแม่คำหนึ่งก็พอ

ส่วนการตร ว จ ว่าลูกชายทำถูกหรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของตัวเขาเอง หรือ ให้เรียนรู้ว่าถูก ผิ ด จากที่โรงเรียน แม่มีหน้าที่เพียงเซ็นชื่อก็แค่นั้น ในตอนแรกลูกชายไม่พอใจ โดยพูดว่า “แม่ของคนอื่นจะช่วย ต ร ว จ การบ้านให้ด้วย ทำไมแม่ ขี้ เ กี ย จ แบบนี้ล่ะ”

เลยตอบลูกชายไปว่า “ ไม่ใช่เพราะแม่ขิ้เกียจหรอก ลูกคิดดูนะ ถ้าแม่ช่วยลูกตรวจการบ้าน แล้วลูกจะรู้ได้ อ ย่ า ง ไรว่าผิด ตรงไหน แล้วต่อไปลูกจะตรวจเองเป็นไหม

เมื่อไปสอบถ้าผิด ลูกจะรู้ไหมว่ามันผิดตรงไหนบ้าง จำไว้นะว่าในตอนนั้นไม่มีใครสามารถมาช่วยลูกตรวจได้ ลูกจะได้ฝึกการตรวจ ความถูกต้อง และ เรียนรู้ด้วยตนเอง”

ประสบการณ์สอนว่า : “แม่ ขี้ เ กี ยจ” ไม่เคยชี้นำลูกให้เรียนรู้ แต่ปล่อยให้ลูกทำ อ ย่ า ง อิสระ คิด อ ย่ า ง อิสระ

ถ้า อ ย า ก ให้ลูกช่วยเหลือตัวเองเป็น ให้ลูกได้ลองลงมือปฎิบัติ

ถ้า อ ย า ก ให้ลูกเป็นคนใจเย็น ให้ฝึกการรอคอย

ถ้า อ ย า ก ให้ลูกมีวินัย พ่อแม่ต้องรู้จัก รั ก ษ า คำพูด

ถ้า อ ย า ก ให้ลูกพูดเพราะ และ มี ม า ร ย า ท ต้องทำให้ลูกเห็นทุกวัน

ถ้าอย ากให้ลูกแก้ปัญหาได้ ให้ฝึกให้เจอปัญหาบ่อยๆ

ถ้าอ ย ากให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็น ให้ฝึกถามเพื่อให้ลูกกล้าแสดงคว ามเห็น

ขอบคุณที่มา lifebeeper

Facebook Comments