10 วิธีดึงสติ แบบเร่งรัด จะช่วยแก้ปัญหาอาการที่ปรอทวัดอารมณ์พุ่งขึ้นสูงปรี๊ด
เช่น ลืมตัวตวาดเสียงหลง ทั้งที่รู้ว่าไม่ดี แต่ก็ พ ย า ม ควบคุมไม่ได้สักที
หรือพบว่า ตัวเองเคร่งเครียด ซึม และ เซ็ง กับอะไรสักอย่างเป็นเวลานาน ๆ
จนพลังชีวิตจะลดลง แต่ก็หยุดไม่ได้ซะที
เพื่อช่วย แ ก้ ปัญหา ขอแนะนำ 10 วิธี ดึงสติแบบเร่งรัด ดังนี้
1. รู้สึกตัวด้วยระฆังแห่งสติ
ที่หมู่บ้านพลัมของท่านติชนัทฮันส์ จะมีการตีระฆังแห่งสติทุก 1 ชั่วโมงเมื่อเสียงระฆังใส ๆ ดังขึ้น ทุกคนที่นี่จะวางมือจากกิจกรรมทุกอย่าง
แล้วเอาจิต มาอยู่ที่ลมหายใจเพื่อเรียกความรู้สึกตัวคืนมาจนระฆังตีครบ 4 ครั้งจึงค่อยทำกิจกรรมนั้นๆ ต่อไป
คุณอาจใช้นาฬิกาปลุก หรือโทรศัพท์มือถือแทนก็ได้เพราะเสียงจากอุปกรณ์เหล่านี้ก็จะคอยสะกิดใจให้คุณมีสติได้เหมือนกัน
2. ตั้งสติก่อนยกหู
ลองสูดลม ห า ย ใจเข้าออก ย า ว ๆ 2 ถึง3 รอบ ทบทวนเรื่องราวที่ต้องการพูดก่อนที่จะกดเลข ห ม า ย ป ล า ย ทางหรือรับ ส า ย
วิธีนี้จะช่วยเรียกสติให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว และทำให้คุณเรียงลำดับเรื่องที่ต้องการพูดได้ชัดเจนครบถ้วน
3. เตือนสติด้วยโน้ตข้อความ
ลองแปะกระดาษโน้ตข้อความเรียก ส ติ ใว้ในที่ที่จะมองเห็นได้ หรือวางพับไว้ในลิ้นชัก ตู้เย็น ใต้ฝาขวด ก้นกระป๋อง
หรือคั่นตามหนังสือเล่มโปรด เห็นโน้ต เ ห ล่ า นี้เมื่อไรคุณจะเรียกสติให้กลับมาเมื่อนั้น
4. สะสมบทสนทนาแห่งสติ
ลองนึกดูว่าบทสนทนาแบบไหนกับใคร หัวข้อใดบ้างที่แทงใจดำของคุณ ทุกครั้งที่รู้ว่าต้องโต้ตอบในบทสนทนาดังกล่าว
ก็ตั้งเข็มไว้เลยว่า ฉันจะตั้งใจฟัง ฉันจะไม่พูดโดยใช้อารมณ์และหลังจากจบการสนทนา ก็ถามตัวเองว่า
สิ่งที่ฉันพูด ห ย า บ ค า ย ไหม ทำร้ า ย จิตใจใครหรือเปล่า
5. หาเวลาหยุดคิด
จัดสรรเวลา อ ย่ า ง น้อย 15 นาที ในแต่ละวันให้เป็นเวลาสุดพิเศษที่คุณจะได้อยู่กับตัวเองเต็มที่ อาจหามุมใดมุมหนึ่งที่เงียบสงบ
จากนั้นนั่งหลับตาหยุดคิด นำสติไปไว้ที่ลม ห า ย ใจเข้าและออก รับรู้ถึงสิ่งที่เข้ามากระทบ ก า ย และใจโดยไม่ต้องคิดตาม ดึงดัน ขัดขวาง
6. มื้อละคำสร้างสติ
ลองฝึกสติระหว่างกินอาหาร อ ย่ า ง น้อยมื้อละคำกันดีกว่า ให้คุณทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อมขณะหยิบช้อนตักกับข้าวมาไว้ที่จาน
จัดเป็นคำ ยกช้อนใส่ปาก ชิมรส เคี้ยว และ ก ลื น ถ้าต้องการฝึกให้บ่อยขึ้น ก็เพิ่มจำนวนคำให้มากขึ้น วิธีนี้ได้ทั้งฝึกสติและช่วยคุมอาหารไปในตัว
7. ออกกำลัง ก า ย ได้สติ
เลือกวิธีออกกำลังกายที่เล่นคนเดียวได้ เช่น วิ่ง ว่ า ย น้ำ โยคะ ชี่กง นอกจากทำให้ร่าง ก า ย แข็งแรงแล้ว
ถ้า ห า ย ใจให้เป็นจังหวะ ตั้งใจสังเกตอวัยวะส่วนต่างๆ ขณะเคลื่อนไหวและอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
จะทำให้มีสติอยู่กับตัวเองตลอดเวลา
8. ตั้งสติก่อนสตาร์ท
คุณอาจใช้เวลาระหว่างขับรถเพื่อฝึกสติได้ด้วย เช่น ก่อนบิดกุญแจรถ ควรหลับตานึกภาพว่า เส้นทางใดที่จะพาไป
ถึงที่ ห ม า ย ได้สะดวกที่สุด และขณะหมุนพวงมาลัยก็ให้มีสติ จดจ่ออยู่กับรถคันหน้า หลัง ซ้ า ย ขวา และความเป็นไปบนท้องถนน
ถ้าทำได้อย่างนี้การสตาร์ทรถแต่ละครั้ง ไม่ว่าหนทาง ย า ว ไกลแค่ไหน ก็จะทำให้คุณไปถึงอย่างปลอดภัยแถมยังได้ประโยชน์อีกด้วย
9. ก้าวย่างแห่งสติ
ลองเอาใจมาไว้ที่เท้า ขา และร่าง ก า ย ที่เคลื่อนไปข้างหน้าแต่ละก้าวๆ ใส่ใจกับน้ำหนักที่กดลงที่ฝ่าเท้า และความเบาขณะที่ยกเท้า
ให้ใจเดินไปพร้อม ๆ กับ ก า ย ยิ่งเดินไกลเท่าไร ก็ยิ่งมีสติมากขึ้นเท่านั้น
10. งานบ้านสร้างสติ
ถ้าคุณกำหนดเป้า ห ม า ย ของการทำงานบ้านอยู่ที่ขั้นตอน ระหว่างการเอาใจจดจ่อขณะซักผ้า กวาดพื้น ถูบ้าน รีดผ้า ทำกับข้าว
คุณจะพบว่า การมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมนั้น ทำให้การทำงานบ้าน ก ล า ย เป็น กิจกรรมแสนสนุก แล้วยังได้งานบ้านที่เนี้ยบขึ้นอีกด้วย
ขอบคุณที่มา f e e lingdd และ c h i t -in