กระเจี๊ยบแดง ปลูก อ ย่ า ง ไร ให้ข า ย ได้

“กระเจี๊ยบแดง”” เป็นพืชที่ ข า ย ได้ ร า ค า ปลูกง่าย ชอบอากาศร้อนหรือค่อนข้างร้อน ทนต่อความแห้งแล้ง และไม่ชอบน้ำขัง เป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่เกษตรกรนิยมนำมาปลูกในนาข้าว แปลงข้าวโพด ภ า ย หลังการเก็บเกี่ยว หรือปลูกควบคู่กับพืชไร่หลักชนิดอื่น ๆ ในพื้นที่ขอบแปลงได้

วิธีปลูกกระเจี๊ยบแดงขอบแปลง

1. เตรียมหลุมปลูก ใส่ ปุ๋ ย คอก แล้วปลูกแบบห ย อ ด เมล็ดตามแนวขอบแปลง หลุมละประมาณ 4-5 เมล็ด ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 1 เมตร แล้วกลบดินเล็กน้อย

2. เมื่อกระเจี๊ยบเป็นต้นอ่อนให้ถอนทิ้งหลุมละ 2-3 ต้น เพื่อให้ไม่แน่นมากเกินไป

3. ใส่ ปุ๋ ย คอกหรือ ปุ๋ ย อิ น ท รี ย์ ในช่วงที่เริ่มเจริญเติบโต อายุ ประมาณ 10-15 วัน และ 40-50 วัน ไม่ใช้ ปุ๋ ย ที่มีไนโตรเจนสูง เพราะจะทำให้ใบและฝักโตเร็วเกินไปและเป็น โ ร ค ง่าย

4. ให้น้ำสม่ำเสมอในช่วง 1-2 เดือนแรก หลังจากนั้นให้ปล่อยตามธรรมชาติ เพราะเป็นพืชที่ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี

สำหรับ พั น ธุ์ ที่นิยมปลูกในบ้านเราคือ พั น ธุ์ ซูดาน และพันธุ์กลีบ ย า ว ของมหาวิท ย า ลัยเกษตรศาสตร์ นิยมปลูกช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนเป็น อ ย่ า ง ช้า สามารถให้ผลผลิตผลสดหลังจาก 80 วันหลังปลูก และสามารถทยอยเก็บได้เรื่อยๆ จนหมดต้น

การเก็บเกี่ยวสามารถทำได้ 2 แบบ คือ เก็บเฉพาะ ด อ ก กระเจี๊ยบแดง โดยใช้กรรไกรหรือมีดตัดเฉพาะดอกที่แก่ แล้วใส่ในภาชนะที่มีวัสดุรอง หรือเก็บเกี่ยวทั้งต้น โดยใช้เคียวเกี่ยวกิ่งที่มีดอกบริเวณโคนกิ่ง

หลังเก็บเกี่ยวนำดอกกระเจี๊ยบแดงไปแทงเมล็ดออก โดยใช้เหล็กกระทุ้งแทงบริเวณขั้วให้เมล็ด ห ลุ ด ออกจากกระเปาะหุ้มเมล็ด

ส่วนที่เหลือเป็นกลีบเลี้ยงหรือ ก ลี บ ดอกของกระเจี๊ยบแดง นำกลีบดอก ไปตากแดดนาน 4-7 วันจนแห้งสนิท และควรตากบนชั้นสูงจากพื้นดินประมาณ 60-70 เซนติเมตร และคลุมด้วยผ้าขาวบางเพื่อ ป้ อ ง กันการปนเปื้อนของฝุ่นละออง

และนำกระเจี๊ยบแดงที่แห้งสนิทแล้วมาบรรจุถุงพลาสติกใส และปิดปากให้สนิทนำเข้าจัดเก็บในห้องที่สะอาด เย็น ไม่อับชื้น เพื่อส่งจำห น่ า ย ต่อไป

ขอบคุณที่มา m i t r p h o lmodernfarm

Facebook Comments