เห็นด้วยไหมว่า ประสบการณ์สำคัญกว่าใบปริญญา

ทุกวันนี้เมื่อเรียนจบ ขั้นต่อไป คือ หางานทำ ซึ่งงานที่เปิดรับสมัครส่วนใหญ่ ล้วนแต่ต้องการคนที่มีประสบการณ์ในเนื้องานกันทั้งนั้น แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ในเมื่อใบปริญญาที่ได้มาล้วนแต่ตรงกับงานที่เปิดรับสมัครทั้งนั้น ทำไมเวลารับเข้างานถึงอยากได้คนที่มีประสบการณืมาก่อนล่ะ

วันนี้เรามาดูคำตอบกัน

ประเด็นแรกของเรื่องนี้คือ เรื่องการเรียน

ถ้าจะว่าไปว่า “การศึกษาบ้านเราเหมือนกับว่าเป็นเรื่องของคนที่เรียนเพียงคนเดียว” เรียนดี เ รี ย น แย่ก็อยู่ที่คนนั้นเองทั้งสิ้นทั้งหมด พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ พี่น้อง ช่วยอะไรไม่ได้เลย

สถาบันที่เรียนบางครั้งจบมาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการทำงานของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับประสบการณ์และฝีมือในการทำงานและใช้ชีวิตอยู่กับผู้อื่นล้วน

ถ้าผลการเรียน อ อ ก มาดี ก็มีแนวโน้มว่า “น่าจะทำงานเก่งนะ” เพราะกว่าจะจบมันต้องฝึกต้องฝนกันมากมายหลายกระบวนการ แต่อย่างไรก็ตาม การฝึกฝนในช่วงระหว่างที่กำลังเรียนอยู่นั้น

มันฝึกฝนอยู่ในกรอบของ ส ม ม ติ ฐ า น ที่ว่า “ฝึกเพื่อเรียนรู้ ถ้าถูกก็แล้วไป แต่ถ้าผิดก็กลับไปแก้ไขใหม่จนกว่าจะดีขึ้น”

ซึ่งเป็นหลักง่ายๆ ของชีวิตนักศึกษา เชื่อว่าเคยผ่านกันมาทุกคน สังเกตดีๆ จะเห็นว่าในช่วงที่เรากำลัง ศึ ก ษ า อยู่นั้นหากเราคิดผิด ทำผิด มันจะถูกลงโทษเพียงอย่างเดียวคือ เกรดหรือผลการเรียนจะออกมาไม่ดีหรือไม่ก็ติดเอฟ(F)

ต้องไปลงทะเบียนเรียนใหม่กับเด็กรุ่นน้อง บางคนก็ไม่ถือเพราะหน้าด้าน บางคนเครียดมากเพราะ อ า ย กับการที่จะต้องไปเรียนกับรุ่นน้อง

ชีวิตวัยเรียนมีเรื่องให้เครียดปวดสมองไม่กี่เรื่อง นอกนั้นเป็น เ รื่ อ ง สนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้เสียเป็นส่วนใหญ่ บางคนถึงกับไม่ อ ย า ก จบออกมา เพราะยัง อ ย า ก สนุกกับชีวิตในช่วงวัยนี้ต่อไปอีก

แต่เมื่อถึงเวลาจบก็ต้องจบ อยู่ที่ว่าตอนจบของ ช่ ว ง วัยจะจบออกมาดี หรือ จบออกมาแบบไม่ได้เรื่อง ซึ่งจะถูกนำไปพิสูจน์ต่อไปในช่วงชีวิตวัยทำงาน

ประเด็นที่สอง คือ เรื่องการทำงาน

“การทำงานคือการ พิ สู จ น์ คุณภาพของคนว่าคนคนนั้นมีคุณภาพแค่ไหน” คุณภาพมากแค่ไหนวัดกันอย่างไร ง่ายๆ เลย ก็แค่วัดว่า ผลของงานที่ทำสัมฤทธิ์ออกมา มันเกิดคุณค่าหรือ ป ร ะ โ ย ช น์ แก่คนอื่นมากแค่ไหน นั่นแหละคือคุณภาพ

จะเห็นว่าตอนเรียนเราไม่วัดผลการเรียนแบบนี้เลย การเรียนเป็นอะไรที่ง่าย สอบไม่ผ่านก็ลงเรียนใหม่


แต่ถ้าทำงานแล้วทำไม่ผ่านจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เสียเวลา เสียเงิน เสียใจ ถูกเจ้านายด่า เพื่อนร่วมงานขาดความเชื่อถือ

ทั้งหมดนี้คือโลกของความจริง โลกที่แสน เ จ็ บ ป ว ด เมื่อทำผิดพลาดขึ้นมา ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นโลกที่หอมหวานเมื่อเราทำงานสำเร็จขึ้นมา เกิดคุณค่าต่อผู้อื่นในวงกว้าง

สังเกตดีๆ ชีวิตในช่วงกำลังเรียนคือช่วง “อยู่ในโลกของจินตนาการ” แต่ชีวิตในช่วงทำงานมันคือ “โลกแห่งความจริง” คนที่ ป ร ะ ส บ ความสำเร็จในชีวิตทั้งหลายเขาเชื่อว่า

ถึงแม้เรียนจบจากช่วงชีวิตวัยเรียนแล้ว เขาหาได้คิดว่าเขาต้องหยุดเรียนรู้อยู่แค่นั้นไม่ แต่กลับกลายเป็นว่าพอจบการเรียนในช่วงวัยเรียน จะต้อง ศึ ก ษ า แบบจริงๆ จังๆ ต่อในระดับที่สูงขึ้นไปอีกคือระดับ ม ห า วิ ท ย า ลั ย ชีวิต ซึ่งจะต้องเรียนรู้ทุกลมหายใจ เพราะมันจะมีผล ได้-เสีย

ในทุกครั้งที่ลงมือทำอะไรก็ตาม และจะต้องศึกษาไปจนวัน ต า ย ใน ม ห า วิ ท ย า ลั ย ชีวิตแห่งนี้ ส่วนคนที่ชีวิตล้มเหลวก็มีสาเหตุเพียงสาเหตุเดียวก็ คือ

ไม่เรียนรู้ที่จะแก้ไขในสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง มันก็ผิดซ้ำๆ ซากๆ จนหา คุ ณ ภ า พ ไม่ได้และสิ้นความน่าเชื่อถือในที่สุด และสุดท้ายก็คือล้มเหลว

ขอบคุณที่มา แ น ว ห น้ า ,รั ก ยิ้ ม

Facebook Comments